ความรู้สึกของคุณแม่ตั้งครรภ์

    ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าคุณแม่ทุกคนเหนื่อยกันทั้งนั้น ตั้งแต่การอุ้มท้องไปจนถึง 9 เดือน
ตอนท้อง0-3เดือน แพ้ท้องหนักมากค่ะ (ของแอดมินนะคะ) นอกจากแพ้ท้องแล้ว ยังปวดท้องน้อย คล้ายๆปวดประจำเดือนอีก คือต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายรอบมาก คุณหมอตรวจภายในแล้วก็บอกว่าไม่พบอะไรนะคะ แต่อาการปวดท้องก็ยังเป็นยังต่อเนื่องไม่หายค่ะ ตอนนั้นมีเลือดออกด้วย แต่นิดเดียวนะคะ กลัวเกิดภาวะแท้งมากค่ะ แต่พยายามไม่เครียด พักผ่อนเยอะๆ แต่ก็ยากสำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานประจำ ทำงานที่บริษัทเจอแต่เรื่องเครียดๆทั้งวันค่ะ ไหนจะเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน เยอะเเยะค่ะ ยิ่งทำให้ร่างกายแย่เข้าไปอีกค่ะ พอกลับจากที่ทำงาน ถึงห้องก็นอนสลบเลยค่ะ เหนื่อยมาก
แต่พอท้องช่วงไตรมาสที่2 ช่วง3-6เดือน
อาการปวดท้องน้อยก็เริ่มน้อยลง แพ้ท้องก็ไม่มีแล้วค่ะ ถือว่าโอเคเลยค่ะ สบายกว่าตอนแพ้ท้องเยอะเลยค่ะ แต่ว่าท้องก็ใหญ่ขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น!!
ก็เริ่มเครียดมากกว่าเดิมค่ะ แต่ก็กินนะคะทุกอย่างที่คนท้องกินได้
น้ำหนักเลยเพิ่มเยอะมากค่ะ ตั้งแต่ท้องจนถึงคลอดตั้ง20Kg.เลยที่เดียวค่ะ พอเข้าไตรมาสที่ 3 ช่วง6-9เดือน ช่วงนี้ท้องยิ่งใหญ่เข้าไปอีกค่ะ ปวดฉี่บ่อยมาก นอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อยมาก แล้วกลางวันต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ง่วงมาก ยิ่งเวลาเดินตามหัวหน้าเพื่อแปลงานไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ หัวหน้าเดินเร็วมาก
แต่แกก็ใจดีค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร^_^
ตอนท้องแก่9เดือน ตั้งใจจะคลอดเอง
แต่อย่างว่า อยากคลอดเองก็ไม่ได้เสมอไป มีภาวะหลายอย่างที่ไม่สามารถคลอดเองได้  ลูกไม่ยอมออกสักที จะเข้า10เดือนแล้วค่ะ พอไปโรงพยาบาลวันที่หมอนัด พยาบาลถามว่าลูกดิ้นไหม แต่เราไม่รู้สึกถึงลูกดิ้นเลย ปกติลูกก็ไม่ค่อยดิ้นช่วงเช้าๆแบบนั้น ถามหลายครั้งชักไม่แน่ใจ เขาเลยให้ไปตรวจการเต้นของหัวใจลูก ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีไรมั้ง ตรวจก็ตรวจ พอตรวจหมอบอกว่าหัวใจเด็กเต้นไม่สม่ำเสมอ ต้องรีบผ่าด่วน สรุปต้องผ่าจริงหรอเนี่ย เป็นห่วงลูกมากด้วย ตัดสินใจผ่าเลยค่ะคุณหมอ กลัวการผ่าตัดมาก แต่ก็ดีที่ได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ แค่เห็นหน้าลูกเท่านั้นความกลัวต่างๆหายเลยทันที สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ สู้ๆนะคะ

ความรู้สึกของแม่ตั้งครรภ์

    ความรู้สึกของคุณแม่ตั้งครรภ์
    ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าคุณแม่ทุกคนเหนื่อยกันทั้งนั้น ตั้งแต่การอุ้มท้องไปจนถึง 9 เดือน
ตอนท้อง0-3เดือน แพ้ท้องหนักมากค่ะ (ของแอดมินนะคะ) นอกจากแพ้ท้องแล้ว ยังปวดท้องน้อย คล้ายๆปวดประจำเดือนอีก คือต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายรอบมาก คุณหมอตรวจภายในแล้วก็บอกว่าไม่พบอะไรนะคะ แต่อาการปวดท้องก็ยังเป็นยังต่อเนื่องไม่หายค่ะ ตอนนั้นมีเลือดออกด้วย แต่นิดเดียวนะคะ กลัวเกิดภาวะแท้งมากค่ะ แต่พยายามไม่เครียด พักผ่อนเยอะๆ แต่ก็ยากสำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานประจำ ทำงานที่บริษัทเจอแต่เรื่องเครียดๆทั้งวันค่ะ ไหนจะเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน เยอะเเยะค่ะ ยิ่งทำให้ร่างกายแย่เข้าไปอีกค่ะ พอกลับจากที่ทำงาน ถึงห้องก็นอนสลบเลยค่ะ เหนื่อยมาก
แต่พอท้องช่วงไตรมาสที่2 ช่วง3-6เดือน
อาการปวดท้องน้อยก็เริ่มน้อยลง แพ้ท้องก็ไม่มีแล้วค่ะ ถือว่าโอเคเลยค่ะ สบายกว่าตอนแพ้ท้องเยอะเลยค่ะ แต่ว่าท้องก็ใหญ่ขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น!!
ก็เริ่มเครียดมากกว่าเดิมค่ะ แต่ก็กินนะคะทุกอย่างที่คนท้องกินได้
น้ำหนักเลยเพิ่มเยอะมากค่ะ ตั้งแต่ท้องจนถึงคลอดตั้ง20Kg.เลยที่เดียวค่ะ พอเข้าไตรมาสที่ 3 ช่วง6-9เดือน ช่วงนี้ท้องยิ่งใหญ่เข้าไปอีกค่ะ ปวดฉี่บ่อยมาก นอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อยมาก แล้วกลางวันต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ง่วงมาก ยิ่งเวลาเดินตามหัวหน้าเพื่อแปลงานไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ หัวหน้าเดินเร็วมาก
แต่แกก็ใจดีค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร^_^
ตอนท้องแก่9เดือน ตั้งใจจะคลอดเอง
แต่อย่างว่า อยากคลอดเองก็ไม่ได้เสมอไป มีภาวะหลายอย่างที่ไม่สามารถคลอดเองได้  ลูกไม่ยอมออกสักที จะเข้า10เดือนแล้วค่ะ พอไปโรงพยาบาลวันที่หมอนัด พยาบาลถามว่าลูกดิ้นไหม แต่เราไม่รู้สึกถึงลูกดิ้นเลย ปกติลูกก็ไม่ค่อยดิ้นช่วงเช้าๆแบบนั้น ถามหลายครั้งชักไม่แน่ใจ เขาเลยให้ไปตรวจการเต้นของหัวใจลูก ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีไรมั้ง ตรวจก็ตรวจ พอตรวจหมอบอกว่าหัวใจเด็กเต้นไม่สม่ำเสมอ ต้องรีบผ่าด่วน สรุปต้องผ่าจริงหรอเนี่ย เป็นห่วงลูกมากด้วย ตัดสินใจผ่าเลยค่ะคุณหมอ กลัวการผ่าตัดมาก แต่ก็ดีที่ได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ  อยากเล่าตอนหมอผ่าต่อนะแต่ง่วงแล้ว ค่อยมาเล่าต่อวันหลังนะ ^_^
อื่นต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าคุณแม่ทุกคนเหนื่อยกันทั้งนั้น ตั้งแต่    การอุ้มท้องไปจนถึง 9 เดือน
ตอนท้อง0-3เดือน แพ้ท้องหนักมากค่ะ (ของแอดมินนะคะ) นอกจากแพ้ท้องแล้ว ยังปวดท้องน้อย คล้ายๆปวดประจำเดือนอีก คือต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายรอบมาก คุณหมอตรวจภายในแล้วก็บอกว่าไม่พบอะไรนะคะ แต่อาการปวดท้องก็ยังเป็นยังต่อเนื่องไม่หายค่ะ ตอนนั้นมีเลือดออกด้วย แต่นิดเดียวนะคะ กลัวเกิดภาวะแท้งมากค่ะ แต่พยายามไม่เครียด พักผ่อนเยอะๆ แต่ก็ยากสำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานประจำ ทำงานที่บริษัทเจอแต่เรื่องเครียดๆทั้งวันค่ะ ไหนจะเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน เยอะเเยะค่ะ ยิ่งทำให้ร่างกายแย่เข้าไปอีกค่ะ พอกลับจากที่ทำงาน ถึงห้องก็นอนสลบเลยค่ะ เหนื่อยมาก
แต่พอท้องช่วงไตรมาสที่2 ช่วง3-6เดือน
อาการปวดท้องน้อยก็เริ่มน้อยลง แพ้ท้องก็ไม่มีแล้วค่ะ ถือว่าโอเคเลยค่ะ สบายกว่าตอนแพ้ท้องเยอะเลยค่ะ แต่ว่าท้องก็ใหญ่ขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น!!
ก็เริ่มเครียดมากกว่าเดิมค่ะ แต่ก็กินนะคะทุกอย่างที่คนท้องกินได้
น้ำหนักเลยเพิ่มเยอะมากค่ะ ตั้งแต่ท้องจนถึงคลอดตั้ง20Kg.เลยที่เดียวค่ะ พอเข้าไตรมาสที่ 3 ช่วง6-9เดือน ช่วงนี้ท้องยิ่งใหญ่เข้าไปอีกค่ะ ปวดฉี่บ่อยมาก นอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อยมาก แล้วกลางวันต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ง่วงมาก ยิ่งเวลาเดินตามหัวหน้าเพื่อแปลงานไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ หัวหน้าเดินเร็วมาก
แต่แกก็ใจดีค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร^_^
ตอนท้องแก่9เดือน ตั้งใจจะคลอดเอง
แต่อย่างว่า อยากคลอดเองก็ไม่ได้เสมอไป มีภาวะหลายอย่างที่ไม่สามารถคลอดเองได้  ลูกไม่ยอมออกสักที จะเข้า10เดือนแล้วค่ะ พอไปโรงพยาบาลวันที่หมอนัด พยาบาลถามว่าลูกดิ้นไหม แต่เราไม่รู้สึกถึงลูกดิ้นเลย ปกติลูกก็ไม่ค่อยดิ้นช่วงเช้าๆแบบนั้น ถามหลายครั้งชักไม่แน่ใจ เขาเลยให้ไปตรวจการเต้นของหัวใจลูก ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีไรมั้ง ตรวจก็ตรวจ พอตรวจหมอบอกว่าหัวใจเด็กเต้นไม่สม่ำเสมอ ต้องรีบผ่าด่วน สรุปต้องผ่าจริงหรอเนี่ย เป็นห่วงลูกมากด้วย ตัดสินใจผ่าเลยค่ะคุณหมอ กลัวการผ่าตัดมาก แต่ก็ดีที่ได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ  พอได้เห็นหน้าลูกแค่นั้นความเจ็บแผลก็เบาลงทันที